1. Munitze มะเร็งลำไส้
2. Munitize โรคเอดส์
3. Munitize โรคเอดส์2
4. Munitize โรคเบาหวาน
5. Munitize โรคไต
6. Munitize โรคไต2
7. Munitize มะเร็งลำไส้ ไต ต่อมน้ำเหลือง
8. Munitize มะเร็งในช่องปาก
9. Munitize มะเร็งเต้านม
10. Munitize มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
11. Munitize มะเร็งปอดระยะที่4
|
"Munitize" มูนิไทซ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สูตรพิเศษที่มีสารอาหารที่ดีที่สุดในขณะนี้ "Munitize" มูนิไทซ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สาหร่ายสไปรูลิน่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และเบต้า กลูแคนจากยีสต์ การวิจัยและพัฒนา อิมมิว เอ็กซ์ที ( ImmuXT) โดยสถาบันคาโรลินสกา ประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับรางวัลโนเบิลด้านยา ได้รับการจดสิทธิบัตร และผ่านการวิจัยทดสอบจากนักวิทยาศาสตร์คลีนิคกว่า 10 ปีที่สารสกัดจากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายถึง 1,000 เท่า เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ วัยทอง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยภูมิแพ้ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันไม่ปกติมะเร็ง เอดส์ โรคพุ่มพวง (SLE) โรคไต และคนที่เป็นภูมิแพ้ เป็นไข้หวัดบ่อยๆ และโรคต่างๆ อีกมากมาย
"Munitize" มูนิไทซ์ คูณสมบัติเด่น
"Munitize" มูนิไทซ์ สารสกัดผสมจากสมุนไพรสูตรเฉพาะ ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย วิธีรับประทาน
"Munitize" มูนิไทซ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสาน ระหว่างสารสกัดจากธรรมชาติและวิตามินสูตรที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ด้วยการวิจัยและพัฒนา อิมมิว เอ็กซ์ที ( ImmuXT) ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร และการยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์คลินิกชั้นนำที่ศึกษาค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน ผ่านการวิจัยและทดสอบจากนักวิทยาศาสตร์คลินิกชั้นนำกว่า 10 ปี โดยในระหว่างขั้นตอนการวิจัยนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า มีความสามารถในการรักษาความสมดุล และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้มากกว่าสารสกัดจากธรรมชาติด้วยวิธีการอื่น ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันอย่างน้อย 1,000 เท่าและได้รับการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว "Munitize" มูนิไทซ์ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถช่วยกำกับดูแล และสร้างความสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับการป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกัน เช่น คนที่เป็นโรคมะเร็ง เอดส์ เบาหวาน โรคพุ่มพวง (SLE) โรคไตวาย และคนที่เป็นภูมิแพ้เป็นไข้หวัดบ่อยๆ และโรคต่างๆ อีกมากมาย รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย เพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนประกอบสำคัญในมูนิไทซ์
1. Munitze มะเร็งลำไส้2
2. Munitize โรคเอดส์
3. Munitize โรคเอดส์2
4. Munitize โรคเบาหวาน
5. Munitize โรคไต
6. Munitize โรคไต2
7. Munitize มะเร็งลำไส้ ไต ต่อมน้ำเหลือง
8. Munitize มะเร็งในช่องปาก
9. Munitize มะเร็งเต้านม
10. Munitize มะเร็งต่อมน้ำเหลือง รู้จักโรคมะเร็งในเชิงป้องกัน และรักษา ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ " 3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวกลายเป็นเนื้องอก 4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆ นั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหาร และปัจจัยอื่นในการดำรงชีวิต 5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น 6. การทำคีโม คือ การให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกันมันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ 7. การฉายรังสีแม้ว่าจะเป็นการทำลายเซลมะเร็ง แต่ก็ทำให้เกิดอาการไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลที่ดี เนื้อเยื่อและอวัยวะ 8. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก 9. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโม หรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้ หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆ นั้น จึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิด และทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น 10. การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา ยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย 11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหาร เพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลล์มะเร็ง ? b. นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือกโดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร c. เซลมะเร็งเติบโตได้ดีในภาวะแวดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไป d. อาหารที่ประกอบด้วย ผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก 20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมซาบสู่ระดับเซลภายใน 15 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด (ผักส่วนใหญ่ รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์ถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140 องศา F (ประมาณ 40 องศา C) e. ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ ชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง - ชาเขียว..ถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง 12. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่า และมีความเป็นพิษมากขึ้น 13. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น 14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน (สาร IP6 [inositol hexaphosphate หรือ phytic acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์, วิตามิน, เกลือแร่, EFAs) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป 15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุก และการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง 16. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเิป็นจำนวนมาก |
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568